เด็กน้อยซนเข้าถังซักผ้าปรากฏว่าติดออกไม่ได้

เด็กน้อยซนเข้าถังซักผ้าปรากฏว่าติดออกไม่ได้

             เมื่อวันที่ 23 เดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2563 ได้มีชาวบ้านโทรเข้าไปที่ศูนย์ สวพ. ซึ่งเป็นศูนย์ที่จะสามารถประสานงานกับหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานเอกชนต่างๆเพื่อให้ความช่วยเหลือกับคนที่โทรเข้าไป เรียกได้ว่า หน่วยงานของ สวพ. นั้นเปิดขึ้นมาเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน อย่างเร่งด่วนหรือหากใครอยากรู้ข้อมูลข่าวสารก็สามารถสอบถามไปยัง สวพ. ได้เช่นเดียวกัน

ซึ่งในวันนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ของ สวพ. ก็ได้รับสายขอความช่วยเหลือจากประชาชนโทรเข้ามาให้ช่วยประสานงานตามกู้ภัยที่อยู่ใกล้กับที่พักอาศัยของเธอมากที่สุดให้มาช่วยเหลือเธอที่บ้านอย่างเร่งด่วนเนื่องจากเธอมีปัญหาว่าลูกชายวัย 5 ขวบของเธอติดอยู่ในถังซักผ้าไม่สามารถเอาตัวเด็กออกมาได้ ซึ่งขณะที่เธอกำลังโทรขอความช่วยเหลือยู่นั้น เด็กก็ส่งเสียงร้องไห้อยู่ตลอดเวลา โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัด โคราช  ที่ตำบล มะค่า

โดยเมื่อทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับการติดต่อก็ลงไปในพื้นที่เกิดเหตุทันที และได้พยายามช่วยเหลือเอาตัวเด็กชายวัย 5 ขวบอออกได้สำเร็จ ซึ่งต้องใช้เวลานานมากถึง 20 นาทีกว่าจะเอาตัวเด็กออกจากเครื่องซักผ้าได้ โดยวิธีการที่นำตัวเด็กออกมานั้นต้องมีการแกะชิ้นส่วนของถังซักผ้าออกและเอามีดตัดถ่างตัดตัวตระกร้าที่เด็กเข้าไปติด ซึ่งระหว่างที่ให้ความช่วยเหลือนั้นเด็กก็ร้องไห้อยู่ตลอดเวลาอีกด้วย  แต่ท้ายที่สุดแล้วเด็กก็สามารถได้รับความช่วยเหลือให้ออกมาจากเครื่องซักผ้าได้อย่างปลอดภัย

            ทางด้านผู้ปกครองของเด็กซึ่งเป็นแม่ เล่าว่า คนเป็นแม่นั้นกำลังซักผ้าและมีลูกชายวัย 5 ขวบเล่นน้ำอยู่ใกล้ๆ เมื่อซักผ้าเสร็จแล้วนำผ้าออกไปตาก ซึ่งไม่ไกลจากลูกเล่นน้ำมากนัก สักพักได้ยินเสียงลูกร้องให้ช่วยหันไปอีกทีก็เห็นว่าลูกติดอยู่ในถังปั่นผ้าเป็นที่เรียบรอ้ยแล้ว ไม่รู้ว่าไปปีนเครื่องซักผ้าตอนไหน

และเมื่อพยายามดึงตัวลูกออกมาปรากฏว่าเด็กติดออกไม่ได้ คนเป็นแม่ได้เรียกให้เพื่อนบ้านมาช่วยเอาตัวเด็กออก แต่ก็ไม่สามารถทำได้ และเด็กเริ่มกลัวและเริ่มร้องไห้แล้ว จึงได้มีการโทรไปขอความช่วยเหลือจาก สวพ.  เพราะไม่มีหมายเลขในการติดต่อกับกู้ภัย ซึ่งโชคดีที่ครั้งนี้สามารถช่วยเหลือลูกได้อย่างปลอดภัย

      สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องของอุบัติเหตุเป็นความซนของเด็ก ซึ่งด้านแม่เองก็มัวแต่ทำงานบ้านและคงไม่ได้คิดว่าลูกจะซนมากขนาดนั้น ซึ่งแนวทางที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ผู้ปกครองที่ได้รับทราบข่าวนี้ควรจะมีการเล่าข่าวนี้ให้กับลูกๆของตัวเองฟัง และสอนลูกให้ทราบถึงอันตรายที่อาจจะขึ้นหากพวกเขาซนเกินกว่าเหตุ ซึ่งถ้าหากพ่อแม่ บอกและสอนลูกให้เกิดความเข้าใจเชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้คงจะไม่มีลูกบ้านไหนเข้าไปติดในเครื่องซักผ้าอีกอย่างแน่นอน

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.    u12

Comments are closed.