เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างมากเกี่ยวกับข่าวเด็กหญิงอายุแค่เพียง 3 ขวบเท่านั้นถูกไฟคลอกจนได้รับการบาดเจ็บสาหัสสาเหตุเพียงเพราะเธอพกเจลล้างมือแล้วเดินผ่านกองไฟที่เขากำลังเผาขยะกันอยู่

ซึ่งหนูน้อยได้รับความทรมานและความเจ็บปวดเป็นอย่างมากจากบาดแผลที่เธอถูกไฟไหม้เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซียโดยมีการรายงานเรื่องราวที่เศร้าสะเทือนใจครั้งนี้ผ่านเว็บไซต์ของอินโดนีเซียโดยตรงซึ่งมีข่าวออกมาเมื่อวันที่ 11 เมษายน ปีพ.ศ 2563 เพื่อเป็นการเตือนใจให้กับหลายๆคนที่มีการ เลือกซื้อเจลล้างมือว่าควรจะมีการตรวจสอบการผลิตให้ดีว่ามีคุณสมบัติของแอลกอฮอล์มากน้อยแค่ไหน

เนื่องจากพบปัญหาว่าเด็กหญิงอายุเพียง 3 ขวบผู้ปกครองให้พบเจลล้างมือตัวเอาไว้เพื่อที่จะได้ใช้ทุกครั้งเมื่อมีการไปจับสิ่งของซึ่งเป็นการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเบื้องต้นแต่ปัญหาที่พบคือแต่ละมื้อที่หนูน้อยใช้นั้นเป็นเจลล้างมือที่ไม่ได้มาตรฐานเมื่อหนูน้อยเดินผ่านกองไฟที่กำลังเผาขยะอยู่สะเก็ดไฟได้มาโดนขวดเจลล้างมือที่หนูน้อยถืออยู่ทำให้เกิดไฟลุกลามเผาไหม้ทั่วตัวของหนูน้อย

จึงเป็นเหตุการณ์ก็ได้ช่วยกันดับไฟและนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลทันทีด้วยอาการของเธอที่สาหัสมากโรงพยาบาลแรกที่เธอเดินทางไปถึงกลับไม่ยอมรับตัวเด็กหญิงไว้ในการรักษาเพราะโรงพยาบาลดังกล่าวรับรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งทางโรงพยาบาลเกรงว่าหากนำตัวหนูน้อยเข้าทำการรักษาแล้วหนูอาจจะติดเชื้อไวรัสได้ง่าย

ทำให้ต้องเสียเวลาหาโรงพยาบาลส่งตัวเธอเข้าไปรักษาซึ่งระหว่างที่เดินทางไปโรงพยาบาลหนูน้อยก็ทุรนทุรายเพราะปวดแสบปวดร้อนแต่การปลูกแผลไฟไหม้ และเมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาลที่สามารถรักษาตัวหนูน้อยวัย 3 ขวบได้แล้วก็ยังต้องมาพบปัญหาว่าครอบครัวของเธอมีฐานะยากจนไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล

ซึ่งทางโรงพยาบาลเรียกค่ารักษาๆ 43000 บาทในขณะเดียวกันพ่อของเธอที่ทำงานอยู่อีกเมืองนึงก็ไม่สามารถมาอยู่ดูแลเธอได้เนื่องจากว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่ายังคงรุนแรงอยู่ในประเทศอินโดนีเซียหลายเมืองจึงมีการล็อคดาวไม่ให้ชาวเมืองเดินทางเข้าออกดังนั้นพ่อของเธอจึงถูกล็อคตัวอยู่ที่อีกเมืองหนึ่ง

ทำให้เธอต้องรักษาตัวอยู่กับผู้เป็นแม่เพียงลำพังซึ่งในขณะนี้มีผู้ใจบุญได้มีการโอนเงินค่ารักษาพยาบาลมาช่วยเหลือครอบครัวของเธอแล้วแต่การรักษาคงต้องใช้ระยะเวลานานเนื่องจากร่างกายของเธอเสียหายหนักมากจากการถูกไฟไหม้