ศาลตัดสินประหารชีวิตแม่วางยาลูกจะฉาก เพื่อรับเงินบริจาค
เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยจำข่าวคราวในช่วงประมาณ ปี พ.ศ. 2563 ได้ เมื่อ มีหญิงสาวคนหนึ่งได้รับการร้องเรียนว่าเป็นผู้วางยาลูกแท้ๆของตนเอง
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้วเมื่อมีเด็กหญิงคนนึงถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลซึ่งทางโรงพยาบาลเองก็มีการรักษามาโดยตลอดแต่เด็กก็ไม่มีอาการดีขึ้น
ศาลตัดสินประหารชีวิตแม่วางยาลูก และแม่ของเด็กก็ได้มีการโพสต์ทางโซเชียลแจ้งปัญหาเกี่ยวกับลูกป่วยแต่ไม่มีเงินรักษาจึงวอนขอให้ชาวโซเชียลนั้นช่วยซึ่งหญิงสาวรายนี้มักจะมีการโพสต์ภาพอาการของลูกสาวให้ชาวโซเชียลได้เห็นอยู่เป็นประจำส่งผลทำให้ชาวโซเชียลส่งเงินบริจาคมานับหลายสิบล้านบาทเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามต่อมามีคนได้ทำการร้องเรียนว่าหญิงสาวที่รับเงินบริจาคเพื่อนำไปรักษาโรคนั้นไม่ได้นำเงินไปรักษาลูกจริงแต่นำเงินไปเล่นการพนัน จึงได้มีการร้องขอให้มีการตรวจสอบเส้นทางการใช้เงินของคุณแม่รายนี้จนมาสู่ที่มาของการโอนเงินเข้าบัญชีไปที่เว็บการพนันออนไลน์ หวยดี นอกจากนี้ยังมีการตรวจสภาพร่างกายของเด็กว่าอาจจะถูกผู้เป็นแม่วางยาเพื่อไม่ให้เด็กนั้นรักษาอาการป่วยให้หายเป็นปกติเพราะยังต้องการเงินสนับสนุนจากชาวโซเชียลหรือไม่
สุดท้ายพบว่าคุณแม่นายนี้ได้ก่อเหตุวางยาลูกจริงโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นพบหลักฐานที่บ้านและมีรอย DNA บนขวดนมซึ่งลอย DNA ดังกล่าวนั้นเป็นลายนิ้วมือของแม่ของเด็กแล้วเมื่อคุณหมอนำยาไปทำการตรวจสอบก็พบว่าเป็นยาพิษซึ่งมีฤทธิ์ ตะก่อนหากินเข้าไปก็จะไปทำลายอวัยวะภายในได้
อย่างไรก็ตามหลังจากที่หญิงสาวรายนี้จนมุมด้วยหลักฐานเธอก็ให้การรับสารภาพว่าเธอเป็นคนที่วางยาลูกของเธอจริงๆเลยเธอต้องการที่จะนำเงินบริจาคมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเธอยอมรับว่าเธอมีการเล่นการพนันออนไลน์ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งตำรวจข้อหาเธอมากมายหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการค้ามนุษย์การพยายามที่จะฆ่าผู้อื่นการทำร้ายร่างกายผู้อื่นและการฉ้อโกงรวมถึงพรบคอมพิวเตอร์เป็นต้น
สำหรับคดีดังกล่าวนั้นถึงแม้ว่าศาลจะเริ่มพิพากษาตัดสินความผิดตั้งแต่ช่วงประมาณปีพศ 2560 58 สุดท้ายแล้วก็มีการยื่นอุทธรณ์ต่างๆอยู่หลายครั้งซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 เดือนกันยายน ปีพ.ศ. 2565 ศาลก็ได้มีการพิพากษายืนยันความผิดที่ผู้เป็นแม่ได้ทำกับลูกด้วยการจัดฉากวางยาลูกให้ป่วยหนักเพื่อต้องการที่จะรับเงินบริจาคซึ่งเด็กนั้นอายุยังไม่ถึง 15 ปีด้วยซ้ำไปทำให้ศาลเห็นสมควรว่าผู้เป็นแม่ได้มีการไตร่ตรองมาก่อนที่จะกระทำความผิดทั้งหมดจึงได้ยืนยันโทษในการตัดสินประหารชีวิตนั้นเอง