ถอดกางเกงในใส่หน้ากากแทนหน้ากากอนามัย
ไม่สวมหน้ากากอนามัยพนักงานไปรษณีย์ปฏิเสธการให้บริการสาวยูเครนถอดกางเกงในใส่หน้ากากแทนหน้ากากอนามัย
เหมือนจะเป็นเรื่องตลกแต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่จะกระทำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับเหตุการณ์ที่จะกล่าวถึงนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศยูเครนซึ่งมีรายงานออกมาจากสำนักข่าวหลายแห่งของประเทศยูเครนเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอ ทำสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดว่าเธอจะกระทำและสร้างความตกตะลึงให้กับคนที่เห็นการกระทำของเธอกันเป็นอย่างมากโดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ไปรษณีย์แห่งหนึ่งในประเทศยูเครนซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในตัวอาคารโดยทางไปรษณีย์ดังกล่าวไม่ได้มีการออกมาระบุว่าหญิงสาว
คนนี้ไปก่อเวรกรรมไว้ที่สาขาอะไรแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็คือประเทศยูเครนนั้นจะมีกฎหมายออกมาเกี่ยวกับเรื่องของการให้ประชาชนนั้นเมื่อออกจากบ้านจำเป็นที่จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งและถ้าหากไปใช้บริการที่ไหนโดยไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยก็จะถูกแจ้งความดำเนินคดีพร้อมกับไม่ได้รับบริการจากทางสถานที่นั้นๆซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นเธอได้เดินทางไปที่ไปรษณีย์สาขาหนึ่งเพื่อไปรับพัสดุแต่ด้วยความบังเอิญที่เธอไม่ได้
นำหน้ากากอนามัยมาทางเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จึงได้ปฏิเสธการให้เธอรับพัสดุดังกล่าวโดยแจ้งเหตุผลให้เธอทราบเกี่ยวกับเรื่องของกฎหมายการใส่หน้ากากอนามัยที่กำลังประกาศใช้อยู่ในขณะนี้อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนดังกล่าวมีวิธีการแก้ปัญหาของเธอด้วยการที่เธอนั้นถอดกางเกงยีนส์ของเธอออกตรงบริเวณหน้าเจ้าหน้าที่นั่นเองพร้อมทั้งถอดกางเกงในออกแล้ว
นำไปไหนมาคุมที่หน้าของเธอหลังจากนั้นเธอก็นุ่งกางเกงยีนส์กับไปซึ่งเห็ดที่ทำเช่นนี้นั่นก็เพราะว่าเธอต้องการใช้กางเกงในนั้นเป็นหน้ากากอนามัยแทนหน้ากากคิดถึงไม่ได้สวมใส่มาทางด้านเจ้าหน้าที่เห็นดังนั้นก็ไม่รู้จะพูดยังไงแต่อนุโลมให้เธอรับพัสดุกลับบ้านไปรวมถึงทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเธอเป็นอย่างไรซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้มีการแชร์กันในโลกออนไลน์จนเป็นที่โด่งดังไปทั่วจนถึงขณะที่มีการนำมาเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ
โดยทางบริษัทไปรษณีย์เองก็ออกมายืนยันว่ารูปภาพดังกล่าวที่กำลังมีการเผยแพร่กันนั้นเป็นเรื่องจริงแต่ทางบริษัทเองไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดขึ้นที่สาขาไหนอย่างไรก็ตามสิ่งที่หญิงสาวคนดังกล่าวทำนั้นอาจจะเป็นที่ตลกขบขันของคนทั่วๆไปแต่เป็นสิ่งที่เธอไม่ควรกระทำอย่างยิ่งเพราะทำให้คนอื่นนั้นเสียงที่ติดเชื้อไวรัสจากเธอได้รวมถึงคนในบ้านของเธอด้วยดังนั้นหากมีกฎหมายที่ออกมาคุ้มครองผู้ประชาชนให้ตระหนักถึงภัยร้ายของไวรัสโคโรนาเราในฐานะประชาชนก็ควรจะปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศของเรานั่นเอง
สนับสนุนโดย sagameผ่านมือถือ