ชายใจบาปตัดเศียรพระประธานอายุเก่าแก่ 214ปี วงจรปิดจับภาพได้ แต่กรรมการวัดไม่ยอมเอาเรื่อง 

ชายใจบาปตัดเศียรพระประธานอายุเก่าแก่ 214ปี วงจรปิดจับภาพได้ แต่กรรมการวัดไม่ยอมเอาเรื่อง 

      ชายใจบาปตัดเศียรพระประธาน   เมื่อวันที่ 20 เดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2564 พระรูปวัดจากวัดศรีราษฎร์ซึ่งอยู่ในอำเภอบางใหญ่จังหวัดนนทบุรีได้เดินทางเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อทำการเอาผิดคนร้ายที่บุกเข้าไปภายในวัดและไปทำการทำลายทรัพย์สินภายในวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มีการตัดเศียรพระประธานซึ่งอยู่ภายในโบสถ์โดยพระประธานองค์ดังกล่าวนั้นมีอายุเก่าแก่ถึง 214 ปีแล้ว 

        สำหรับพระลูกกวาดที่มีการเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจ นั้นชื่อว่าพระพรพรหม  ถาวโร  โดยพระสงฆ์องค์ดังกล่าวนั้นได้มีการนำหลักฐานเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดทำให้เห็นว่าคนร้ายนั้นเข้ามาผ่านช่องทางไหนและเข้าไปทำลายทรัพย์สินอย่างไรรวมถึงเห็นหน้าตาของคนร้ายอย่างชัดเจนซึ่งพระองค์ดังกล่าวระบุว่าคนร้ายนั้นเป็นคนในพื้นที่มีชื่อว่านายปอนด์   ทุกคนในพื้นที่รู้จักชายคนนี้กันเป็นอย่างดี

        อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้นั้น พระพรพรหม  เกิดความสงสัยว่าทางด้านคณะกรรมการของวัดทำไมถึงได้ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบและไม่ยอมที่จะเอาผิดคนร้ายทั้งที่ก็มีหลักฐานชัดเจนและรู้ด้วยว่าเป็นใครนอกจากนี้ยังมีชาวบ้านบางคนเข้ามาข่มขู่พระในวัดหากมีการแจ้งความก็จะมีการทำร้ายพระที่วัดซึ่งทำให้พระพรพรหมนั้นไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยอยู่ได้เนื่องจากว่าในปนั้นได้เข้ามาทำลายโบราณสถานโดย วัดศรีราษฎร์นี้เป็นวัดเก่าแก่มีอายุมานานกว่า 200 ปีและที่สำคัญเป็นวัดที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมศิลปากรอีกด้วย 

สำหรับวัดศรีราษฎร์  ไม่ปรากฏว่าใครเป็นคนที่เริ่มก่อสร้างวัดแห่งนี้มา

ชายใจบาปตัดเศียรพระประธาน โดยมีข้อมูลที่มีการพูดกันปากต่อปากว่าวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยปีพ.ศ 2354 ซึ่งแต่เดิมนั้นวัดนี้มีชื่อว่าวัดเทลาด  สาเหตุที่เรียกว่าวัด เทลาด นั่นก็เพราะว่าถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ลาดเอียงโดยพื้นที่นั้นจะลาดเอียงไปทางคลองอ้อมนนท์ 

           ที่สำคัญองค์พระประธานที่ได้รับการถูกทำลายนั้นเป็นองค์พระประธานที่อยู่คู่กับวัดมานานกว่า 214 ปีแล้วซึ่งองค์พระประธานนี้มีชื่อเรียกว่าหลวงพ่อหินโดยลักษณะของรูปปั้นขององค์พระประธานนั้นด้านในจะเป็นไม้ด้านนอกจะมีการนำปูนมาห่อหุ้มเอาไว้ซึ่งเมื่อทางในปอนด์ได้มีการทุบทำลายจนเสียหายแล้วก็ได้มีการทิ้งเสียของพระเอาไว้ภายในอุโบสถไม่ได้มีการนำออกไปด้วยซึ่งพระลูกวัดเองก็ไม่ทราบว่านายปอนเข้ามากระทำเช่นนี้เพื่ออะไร  อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการแจ้งความก็ได้มีการเรียกตัวนาย  ปอนด์เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป 

 

สนับสนุนโดย.  aesexy

Comments are closed.